MICRO รุกธุรกิจนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิตต่อยอดธุรกิจ
MICRO เดินหน้าธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต เสริมแกร่งรายได้ หลังบอร์ดอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิต พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกมือสองให้ครบวงจร คาดดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 จับตาดูสถานการณ์คงเป้ายอดปล่อยสินเชื่อปีนี้ 2 - 2.5 พันล้านบาท ควบคุม NPL ลุยขยายสาขาต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดสาขาปราจีนบุรี เป็นสาขาลำดับที่16 เรียบร้อยแล้ว เสริมทัพพื้นที่ภาคตะวันออก หนุนพอร์ตสินเชื่อโตระยะยาว
นายวิศาลท์ บูรณสันติกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรถบรรทุกมือสอง และสินเชื่อประเภทอื่นที่มีรถบรรทุกมือสองเป็นหลักประกัน เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วง ไตรมาส 3/2564 คาดว่าภาพรวมการปล่อยสินเชื่อยังคงใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งโดยปกติเดือนกันยายน การปล่อยสินเชื่อจะเริ่มดีขึ้น และเชื่อมั่นว่าหากมีการจัดการฉีดวัคซีนได้ดี สถานการณ์น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ขอประเมินสถานการณ์อีกครั้งด้วยเพราะไตรมาส 3 เป็นช่วงฤดูฝน แต่จากตัวเลขการปล่อยสินเชื่อในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีผลกระทบเล็กน้อยจากมาตรการล็อคดาวน์ และสถานการณ์เดือนสิงหาคม ก็กลับมาดีขึ้น
“สถานการณ์โควิดระลอกใหม่ที่ระบาดรุนแรง ทางบริษัทยังคงจับตาดูสถานการณ์ และเตรียมแผนรับมืออย่างใกล้ชิด และจากการที่ภาครัฐออกมาตรการคุมเข้มพื้นที่ 29 จังหวัด เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นั้น มองว่าอาจส่งผลกระทบต่อภาครวมเศรษฐกิจในประเทศอยู่บ้าง แต่หากว่าสถานการณ์คลี่คลายได้ตามระยะเวลาที่ภาครัฐคาดการณ์ไว้มองว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในระยะสั้น ส่วนบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการดูแลลูกหนี้อย่างใกล้ชิดและพิจารณาให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม ขณะที่หนี้ NPL ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ระดับ 3.74%” นายวิศาลท์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิต เพื่อสนับสนุนแผนกลยุทธ์หลักของบริษัทในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกมือสองแบบครบวงจร อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมที่เกื้อหนุนกัน ในการเชื่อมโยงทุก ๆ กลุ่มงานให้สามารถพัฒนาร่วมกันได้ ถือเป็นปัจจัยแวดล้อมที่เกิดจากการผนึกพลังระหว่างบริษัทและนำไปสู่ระบบนิเวศธุรกิจที่สมบูรณ์ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4
“ปัจจุบัน MICRO ไม่มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าขายประกัน ทำให้บริษัทฯได้จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ เพื่อประกอบกิจการนายหน้าขายกรมธรรม์ประกันภัยทั้งประเภทประกันชีวิตและประกันวินาศภัยคาดว่าจะสามารถช่วยเสริมสร้างรายได้ และเพิ่มอัตราความสามารถในการทำกำไรในอนาคต สำหรับธุรกิจประกันภาพที่คาดการณ์ไว้ในปีหน้า MICRO เองเพิ่งเริ่มเข้ามา และถือว่าเป็นน้องใหม่ในธุรกิจดังกล่าว โดยบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในวงการสามารถสร้างรายได้จากประกันปีต่อได้ถึง 70-80% เราจึงประเมินและตั้งเป้ารายได้จากประกันปีต่อในการจัดตั้งบริษัทปีแรกให้เติบโตราว 50% และในอนาคตจะขยายไปยังประกันอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ประกันภัยขนส่ง เป็นต้น เพื่อให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น” นายวิศาลท์ กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2564 คาดว่าจะมีการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา บริษัทตั้งเป้าหมายขยายพอร์ตสินเชื่อปี 2564 อยู่ที่ 3,500 - 4,000 ล้านบาท เติบโตราว 37 - 57% จากปีก่อน โดย ณสิ้นไตรมาสที่ 2 ปีนี้มีพอร์ตสินเชื่อทั้งสิ้น 3,134 ล้านบาท เติบโตขึ้น 592 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23.27% เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 2563 ทั้งนี้ บริษัทยังเดินหน้าในการขยายสาขาปีนี้ให้มากกว่าเป้าหมายช่วงต้นปีที่ตั้งไว้ที่ 4 สาขา รวมเป็น 16 สาขา จากปี 2563 มี 12 สาขา โดยดำเนินการเปิดสาขาใหม่ในปีนี้ไปแล้ว 4 สาขาคือ สาขาสมุทรปราการ สาขาปทุมธานี และสาขาแพร่ ส่วนสาขาที่ 16 สาขาปราจีนบุรี ล่าสุดได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดภาคตะวันออก ทั้งนี้สาขาที่บริษัทตั้งเป้าขยายเพิ่มเติมทั้งในปีนี้และปีหน้าจะเน้นจังหวัดที่มีศักยภาพการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มเต็นท์รถบรรทุกมือสอง เพื่อสนับสนุนการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อของบริษัท ให้สามารถเติบโตได้ราว 30% ในทุก ๆ ปี
ปัจจุบัน MICRO มีธุรกิจหลัก คือบริการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ที่เน้นขยายพอร์ตงานช่องทางดีลเลอร์ (เต็นท์รถ) เป็นหลัก ซึ่งการเปิดสาขาเพิ่มเพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อใหม่ปีนี้โตได้ตามเป้า 2,000-2,500 ล้านบาท รวมถึงการสร้างมาร์เก็ตแชร์ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.8% มองความต้องการสินเชื่อรถบรรทุกมือ 2 ไม่ได้ลดลง แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ใช้รถบรรทุกเพื่อการประกอบอาชีพ